หนุ่ม นครศรีฯวัย 28 ปีหื่นกาม นั่งซดเหล้าขาวย้อมใจ ก่อเหตุเปลือยกายล้อนจ้อนปีนเข้าบ้านเหยื่อหมู่บ้านเดียวกัน หวังข่มขืนนักเรียนสาววัย 14 ปี แต่ตัวเองอยู่ในสภาพเมาหนัก มุดมุ้งผิดเจอแม่เหยื่อ คว้าอีโตฟันเลือดสาด เผย ผู้ต้องหาเพิ่งพ้นคุกมาไม่นาน
เมื่อเวลา 23.30 น. คืนวันที่ 7 ม.ค.53 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.อภิชาต คชเวช สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายเปลือยกายล้อนจ้อน ปีนเข้าไปในบ้านผู้เสียหายหมายข่มขืนนักเรียนสาววัย 14 ปี แต่ถูกแม่ของนักเรียนรายนี้ ใช้มีดอีโต้ฟันคน ร้ายได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะหลบหนีออกทางหน้าต่างไป เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 9/2 ซอยหัวหว่อง ริมคลองสวนหลวง พัฒนาการ-ทุ่งปรัง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
หลังรับแจ้งเหตุจึงนำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.อ.จรินทร์ ขาวเอี่ยม รอง สวป.สภ.เมือง ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันค้นหาตัวคนร้ายอยู่ที่บริเวณ ริมคลองสวนหลวง ด้านหลังบ้านที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นพบกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ คาดว่าเป็นของคนร้ายถอดวางไว้ข้างบ้านดังกล่าว และยังพบขวดเหล้าขาว 1 ขวด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบหยดเลือดจำนวนหนึ่ง หายเข้าไปในป่าละเมาะริมคลองดังกล่าว จึงนำกำลังกระจายกันค้นหาตัวคนร้าย พร้อมกับกลุ่มชาวบ้าน กระทั่งพบตัวคนร้ายทราบชื่อคือ นายพงษ์เพชร บุญยติศักดิ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 /1 ซอยหัวหว่อง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุไม่ไกลมากนัก นั่งหลบซ่อนอยู่ในป่าละเมาะริมคลองในสภาพมึนเมาอย่างหนัก และเปลือยกายล้อนจ้อน มีเลือดไหลอาบทั่วร่าง ตรวจสอบพบบาดแผลถูกฟันด้วย ของมีคมที่ด้านหลังศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ 1 แผล และแผ่นหลัง อีก 1 แผล เจ้าหน้าที่จึงนำเอากางเกงยีนส์ตัวที่พบดังกล่าวมาให้ผู้ต้องหาสวมใส่ ก่อนที่จะควบคุมตัวส่งให้แพทย์ ร.พ.มหาราช ทำการรักษาบาดแผล
จากนั้นได้นำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมือง อย่างไรก็ตาม ขณะสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ปรากฎว่า ไม่สามารถสอบสวนได้ เนื่องจากอยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก พูดจาวกวนไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ เพื่อให้หายสร่างเมาและดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง
ส่วนบ้านที่เกิดเหตุนั้น เป็นบ้านปูนซีเมนต์ชั้นครึ่ง ภายในบ้านพบร่องรอยการต่อสู้จนมุ้งขาด ข้าวของกระจัดกระจาย โดยมีนางพิมพิมล เพชรเจริญ อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมบุตรสาว อายุ 14 ปี และหลานชายของนางพิมพิมล อายุ 5 ขวบ ทั้งหมดยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยภายในมือของนางพิมพิมล ยังคงกำมีดอีโต้ที่ใช้ป้องกันตัวและฟันผู้ต้องหาจนได้รับบาดเจ็บอยู่
นางพิมพิมล ให้การว่า หลังจากแยกทางกับสามีเมื่อหลายปีก่อน จึงได้อาศัยอยู่กับบุตรสาวและหลานชาย อายุ 5 ขวบในบ้านหลังนี้ โดยทำงานเป็นแม่บ้านของหมู่บ้าน”นครเลควิว” ก่อนเกิดเหตุขณะที่นอนอยู่ภายในมุ้งกับหลานชายบริเวณชั้นล่างของบ้าน ส่วนบุตรสาวนอนอยู่ในห้องนอนชั้นบน ระหว่างที่กำลังเคลิ้มหลับ รู้สึกเหมือนมีใครขึ้นมาคร่อมทับร่างและพยายามจะล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้ตนเองตกใจตื่น และพบว่ามีนายพงษ์เพชร ซึ่งอยู่ในสภาพเมามายและเปลือยกายล้อนจ้อน เนื้อตัวเปียกปอน นั่งคร่อมร่างอยู่ จึงได้พยายามต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับนายพงษ์เพชร อย่างสุดแรง
ในที่สุดนายพงษ์เพชร ก็ผละออกและวิ่งไปปีนหน้าต่างเพื่อหลบหนีออกนอกบ้าน ตนจึงรีบคว้ามีดอีโต้วิ่งไล่ตาม และฟันโดนร่างนายพงษ์เพชร ทางด้านหลังหลายครั้ง ฟันโดน บ้างไม่โดนบ้าง แต่นายพงษ์เพชร ก็สามารถกระโดดลงจากหน้าต่างลงในคลองสวนหลวง หลบหนีไปได้ จากนั้นตนก็ได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้ช่วยโทรศัพท์แจ้ง ตำรวจ ดังกล่าว
นางพิมพิมล ผู้เสียหาย ให้การอีกว่า ตามปกติคนในชุมชนก็ระมัดระวังอันตรายจากนายพงษ์เพชร ผู้ต้องหารายนี้อยู่แล้ว เพราะมีพฤติกรรมเป็นภัยสังคม ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ติดยาเสพติด มีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย รวมทั้งก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นประจำ ไม่เว้นแม้แต่พระภิกษุ ก็เคยถูกนายพงษ์เพชร ตามรังควาญทำร้ายจนต้องย้ายวัดหนีมาแล้ว อีกทั้งนายพงษ์เพชร เพิ่งจะพ้นโทษออกมาจากคุกในคดีทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่านางเมียด บุญยติศักดิ์ แม่บังเกิดเกล้าของตัวเองด้วย
“สำหรับบ้านของตนนั้น นายพงษ์เพชร พยายามจะปีนเข้ามาภายในบ้าน มาจำนวน 3 ครั้งแล้ว แต่ตนและลูกสาวตื่นขึ้นมาร้องตะโกนให้เพื่อนบ้านช่วย ทำให้นายพงษ์เพชร ตกใจและหลบหนีไปได้ทุกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เชื่อว่านายพงษ์เพชร มีเป้าหมายที่จะเข้ามาข่มขืนกระทำชำเราบุตรสาวของตน แต่นายพงษ์เพชร คงเข้าใจว่า บุตรสาวนอนกับหลายชายวัย 5 ขวบภายในมุ้งบริเวณชั้นล่างของบ้าน จึงมานั่งดื่มเหล้าขาวย้อมใจ ก่อนเปลือยกายล้อนจ้อนปีนหน้าต่างด้านที่ติดกับคลองสวนหลวงเข้ามาในบ้านและ มุดเข้ามาภายในมุ้ง จากนั้นก็ขึ้นมาคร่อมร่างตนเองทันที คงคิดว่าเป็นลูกสาวเพื่อที่จะลงมือข่มขืน แต่เมื่อถูกต่อสู้ขัดขืน และรู้ว่าไม่ใช่ลูกสาว นายพงษ์เพชรจึงพยายามกระโดดหนีทางหน้าต่าง แต่ตนเองได้วิ่งไปคว้ามีดอีโต้ไล่ฟันนายพงษ์เพชร จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าวและถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด”
ร.ต.อ.จรินทร์ ขาวเอี่ยม รอง สวป.สภ.เมือง เปิดเผยว่า ชาวบ้านในชุมชนที่เกิดเหตุต่างเอือมระอากับพฤติกรรมของนายพงษ์เพชร ที่ทำตัวเป็นภัยสังคมมาตลอด สำหรับ บุตรสาวของผู้เสียหายเป็น เป้าหมายที่นายพงษ์เพชร จะเข้าไปทำมิดีมิร้ายนั้น เป็นนักเรียนชั้น ม. 2 ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง โดยเป็นนักเรียนดีเด่นของสถานศึกษา แม้จะเรียนอยู่ในระดับ ม.2 แต่ได้โควตาขึ้นเรียน ม.4 ของสถานศึกษาไว้ล่วงหน้าแล้ว
อีกทั้งยังได้รับการคัดเลือกให้รับทุนไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่เนื่องจากครอบครัวฐานะยากจน จึงไม่ขอรับทุนเรียนต่อประเทศญี่ปุ่น เรื่องที่เกิดขึ้นยังถือว่าโชคดีที่นายพงษ์เพชร ปีนเข้าไปหาผิดคน จึงถูกแม่ต่อสู้ขัดขืนและใช้มีดอีโต้ฟันนายพงษ์เพชร จนได้รับบาดเจ็บ
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
ที่มา
http://news.mthai.com/general-news/65445.html
