รอแสงตะวันแรกแห่งปีที่ป่าดงนาทาม (Lisa)
ผืนป่าตะวันออกแม้กว้างใหญ่ไพศาล หากไม่ไกลเกินที่สองขาจะก้าวย่าง เพื่อเหยียบยืนรอชมแสงตะวันใหม่ก่อนใครในแดนสยาม
เข็มนาฬิกานับถอยหลังสู่ช่วงเวลาสุดท้ายของปี เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงเตรียมปลดเปลื้องภารกิจอันหนักหน่วงด้วยแผนการท่อง เที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวกันแล้ว แต่ถ้าไม่...และคุณพร้อมที่จะตะลุยป่าหน้าหนาวด้วยกันละก็ เตรียมแพ็กกระเป๋าแล้วตามเราไปเที่ยวป่าดงนาทาม จังหวัดอุบลราชธานี ณ จุดนี้คุณจะได้กล่าวอำลาแสงสุดท้ายของปีเพื่อต้อนรับแสงแรกของตะวันสู่ปี หน้า ฟ้าใหม่ด้วยกัน
ทุ่งดอกไม้บานบนลานหิน
แสงตะวันเรืองรองอยู่ปลายทาง แต่ก่อนจะไปถึงในช่วงเวลาอากาศเย็นสบายปอดแบบนี้ ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มในอำเภอโขงเจียมน่าแวะเวียนไปเป็นที่สุด ด้วยมีความงามน่ามหัศจรรย์ของทุ่งดอกไม้ป่าที่เบ่งบานส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ กลีบดอกบางหลายสีสันแต่งแต้มพลานหินหรือลานหินกินเนื้อที่กว้างร่วม 20-40 ไร่ ซึ่งเท่าที่มี การสำรวจพบพันธุ์ดอกไม้มากกว่า 30 สายพันธุ์ มีทั้งไม้ล้มลุกและพืช กินแมลง เช่น ดอกดุสิตา สร้อยสุวรรณา มณีเทวา ทิพเกสร สวัสจันทร หยาดน้ำค้าง กระดุมทอง แดงอุบล แก้มอ้น โคลงเคลง ฯลฯ
วิธีชมความงามของดอกไม้เล็ก ๆ เหล่านี้ในมุมที่ดีที่สุดคือการที่มนุษย์ตัวใหญ่ ๆ อย่างเราต้องยอมลงนอนราบเรียบเสมอดอกไม้หรือต่ำกว่า จึงจะได้ชื่นชมกลีบดอกที่บอบบางแสนหวานได้ถนัดตา และไม่ไกลจากลานดอกไม้ป่ามีน้ำตกสร้อยสวรรค์เป็นอีกจุดที่น่าเที่ยว เกิดจากสายน้ำสองสายไหลมาบรรจบกันเหมือนรูปสายสร้อย ก่อนไหลจากผาสูงชันลงสู่แม่น้ำโขง ทั้งยังมีศาลาชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์ผืนป่าและหน้าผาหินฝั่งประเทศลาวได้ อีกด้วย
ตะวันยอแสงที่เสาเฉลียงคู่
ลาจากทุ่งดอกไม้อย่างอาลัย เราเดินทางขึ้นไปทางตอนเหนือของอุทยานฯ สู่เขตพื้นที่ป่าดงนาทาม โดยใช้รถโฟร์วิลอีซูซุเป็นยานพาหนะ ด้วยเส้นทางขึ้นป่าเป็นเขาหินทรายสลับกับทางพื้นราบผ่านป่าเบญพรรณและสนสอง ใบ จัดเป็นเส้นทางที่สมบุกสมบันพอตัว
ดง นาทาม นอกจากเต็มไปด้วยลานหินทรายและผาสูงแล้ว ยังมีแท่งหินทรงแปลกตากระจายไปทั่ว เมื่อผนวกกับจินตนาการของมนุษย์ก็ทำให้เกิดจุดชมแท่งหินประหลาดอยู่หลายจุด เช่น หินเต่าชมจันทร์ซึ่งอยู่ระหว่างทางขึ้นเขา หรือเสาหินที่เกิดจากแรงลมกัดเซาะจนมีรูปทรงประหลาดคล้ายดอกเห็ด ชาวบ้านเรียกกันว่าเสาเฉลียง โดยไฮไลต์จะอยู่ที่หน้าผาเสาเฉลียงคู่ ซึ่งเป็นจุดที่ต้องเดินเท้าเพื่อไปรอชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของดงนาทาม ท่ามกลางลมหนาวกรรโชก แต่เชื่อเถอะว่าจะประทับใจจนลืมไม่ลงเลยล่ะ
พิชิตผาชะนะได ชมแสงตะวันใหม่
คืนค่ำบนดงนาทามให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางทะเลดาว ท้องฟ้าในคืนหนาวที่เราพักกางเต็นท์ปลอดเมฆหมอก หมู่ดาววิบวาวจึงแจ่มกระจ่างตา แม้นอนในเต็นท์ก็ยังมองเห็นดาวกะพริบพรายอยู่เป็นเพื่อนเราจนหลับตาลงในที่ สุด
ดงนาทามมีหน้าผาหลายแห่งที่เป็นจุดชมวิว แต่คงไม่มีผาไหนจะพิเศษสุดเท่าผาชะนะได ซึ่งเราคงคุ้นกันดีจากเสียงประกาศในวิทยุทุกวี่วันว่า "พระอาทิตย์ขึ้นที่ผาชะนะไดเวลา..." นั่นเพราะที่นี่ตั้งอยู่จุดพิกัดที่เส้นลองจิจูด 105 องศา 37 ลิปดา 17 ฟิลิปดา ซึ่งอยู่ปลายสุดของคมขวานติดกับแม่น้ำโขง จึงเป็นจุดชมทะเลหมอกยามเช้าและลำแสงแรกของตะวันได้ก่อนใครในสยาม ฉะนั้น เวลาตี 5 กว่าๆ ก่อนฟ้าสาง เราจึงรีบเร่งขึ้นสู่ผาชะนะไดกันทันที วันนั้นแม้ความหนาวจะเย็นเยียบผ่านเสื้อแจ็กเก็ตหนาเข้าไปได้ แต่ก็ไม่สามารถทำให้เราล้มเลิกการรอคอยแสงแรกแห่งตะวัน ช่างภาพอาชีพหลายคนบ่นอุบเพราะอยู่ดีๆ ก็มีเมฆมาบดบังดวงตะวัน แต่สำหรับเรา การนั่งเงียบๆ เฝ้ารอแสงตะวันท่ามกลางฉากขุนเขาฝั่งประเทศลาว และมองเห็นสายน้ำโขงทอดยาวที่เบื้องล่าง แค่นี้ก็มีความสุขเกินบรรยายแล้วล่ะ...
เผลอๆ บางทีปีใหม่นี้เราคงเจอกัน ไปต้อนรับแสงแรกของปีใหม่ด้วยกันสิคะ
ท่องป่าดงนาทาม
โปรแกรมท่องป่าศึกษาธรรมชาติที่ป่าดงนาทาม มีทั้งแบบ 2 วัน 1 คืน และ 3 วัน 2 คืน ตลอดเส้นทางจะได้พบแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น เสาเฉลียงคู่ภูจ้อมก้อม หินเต่าชมจันทร์ โหง่นแต้ม น้ำตกกิ้ตเนินสนสองใบ ผาชะนะได น้ำตกห้วยพอก ผากำปั่น ผาหินแตก ถ้ำปาฏิหาริย์ ฯลฯ พร้อม มัคคุเทศก์ลูกหาบเต็นห์ให้เช่า อาหาร รถยนต์นำเที่ยว เรือนำเที่ยวล่องลำน้ำโขง สอบถามรายละเอียดได้ที่ อบต. นาโพธิ์กลาง โทร. 045-381-063, 08-1070-8432
Fast Facts
• การเดินทางสู่อุทยานฯ ผาแต้ม จากอุบลฯ ไปโขงเจียมประมาณ 80 กม. แล้วไปตามเส้นทางยุทธศาสตร์สายโขงเจียม-เขมราฐ หมายเลข 2112 อีกประมาณ 12 กม. เลี้ยวขวาอีก 5 กม. จะถึงภูผาขาม ที่ตั้งของอุทยานฯ สอบถามเส้นทางและที่พักอุทยานฯ โทร. 045-249-780, 045-318-026 ททท. สำนักงานอุบลฯ โทร. 045-243-770, 045-250-714
• แนะนำที่พักในโขงเจียม เช่น บ้านสวนพีรดา โทร. 045-351-028 บ้านเคียงน้ำรีสอร์ท โทร. 045-351-374 บ้านริมโขง โทรง 045-351-101 บ้านพักมงคล โทร. 045-351-025 ร้านอาหารย่อยๆ เช่น แพอารยา โทร. 045-351-015 แพชลดา โทร. 045-351-135 และครัวริมโขง โทร. 045-351-101
ที่มา
http://travel.kapook.com/view9317.html
